วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

เล่าปี่ ชีวิตฉันมันรันทด

เล่าปี่เป็นตัวละครในวรรณกรรมสามก๊กที่เป็นคนที่มีลักษณะ สู้ชีวิตจากเชื้อพระวงศ์ ลงสู่ห้วงคนจนอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยพ่อก็ตายตั้งแต่เล็ก ก็ต้องฝ่าลำเค็ญเย็นร้อนมาตลอด ๆ อาชีพก็ทอเสื่อขาย รายได้ก็น้อยนิด แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาได้พบกับ ยอดปราชญ์นามว่า สุมาเต็กโช ได้แนะนำเขาให้รู้จักกับ ฮกหลง” “ฮองซูผู้สามารถพลิกชะตากรรมของเขาได้ และระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับ ผู้ผงาดเหนือเมฆ” “ชีซีอีกและก็ได้ร่วมงานกัน แต่โชคชะตาพาพัดให้พลัดพราก เขาต้องแยกจากชีซีไป แต่ก่อนชีซีจะไป เขาก็ได้ไขปริศนาฮกหลง ฮองซู คือผู้ใดกัน และก็แนะนำหนทางสู่การพบปราชญ์ผู้สามารถพลิกชะตาเล่าปี่ได้ และเล่าปี่ก็ได้ใช้ความเพียรพยายามในการพิชิตใจของมหาปราชญ์ฮกหลง หรือ ขงเบ้งนี่เอง และต่อมาจากนั้นเล่าปี่ก็เริ่มตั้งตัว จนกระทั่งได้ฮองซู หรือ บังทองมาอยู่ในก๊กอีกคน และเขาก็ขยายอิทธิพลจนสามารถขึ้นไปสู่ ฮ่องเต้ผู้มีอำนาจราชศักดิ์อัครฐาน จากเสื้อขาด ๆ สู่เสื้อผ้าแพร ผ้าไหมอย่างเยี่ยม

แต่กระนั้นชีวิตเล่าปี่กว่าจะมาประสบความสำเร็จ หรือแม่แต่ได้เป็นฮ่องเต้แล้วก็ตาม ก็ยังไม่พ้นความรันทดอีกเช่นเคยโดยจะขอไล่ตามเหตุการณ์ไป โดยจะข้ามรายละเอียดในบางส่วน

แรกเริ่มเดิมทีนั้นเล่าปี่ก็รันทดอดสูตั้งแต่ต้องตกระกำลำบากด้วยการประทังชีวิตโดยการทอเสื่อขาย และต่อมาเขาก็ได้พบกับกวนอูและเตียว
หุย จากนั้นก็สาบานเป็นพี่เป็นน้องกัน (แต่ในประวัติศาสตร์เหตุการณ์นี้ไม่มีอยู่จริง) จากนั้นก็ได้สร้างความดีความชอบไว้ในแผ่นดินมากมาย จนได้รับราชการ สามารถชนะใจประชาชนได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากปกครองด้วยคุณธรรม และความยุติธรรม แต่ก็เป็นได้ไม่นานก็ต้องลาออก เนื่องจากน้องชายตัวดีไปโบยตี ต๊กอิ้ว”(สามก๊กฉบับแปลใหม่บอกว่า ต๊กอิ้วไม่ใช่ชื่อคน แต่เป็นชื่อตำแหน่ง) ผู้ที่มาเรียกส่วยจากเล่าปี่ ทำให้เตียวหุยไม่พอใจ และถ้าอยู่ต่อไปเล่าปี่รู้ตัวว่าต้องรับอาญาเป็นแน่ จึงต้องทิ้งตำแหน่ง

และชีวิตเขาก็เดินทางไปจนกระทั่งไปเข้ากับทัพ 18 หัวเมือง ซึ่งไม่นานทัพนี้ก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง และต่อมาเล่าปี่ก็ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองซีจิ๋ว แต่ก็เป็นได้ไม่นาน ก็ถูกลิโป้ปล้นไปก็ด้วยน้องชายตัวดีคนเดิม เตียว
หุยที่ไปเมาแล้วก็ไปโบยโจเมา ผู้เป็นผู้ตาของลิโป้ ทำให้โจเมาเคียดแค้นจึงไปบอกลิโป้ ลิโป้ได้ทีก็เลยจัดการนำทัพเข้ายึดเมืองทันที 



เล่าปี่
ต่อมาเขาก็ไปอยู่กับโจโฉ ผู้เรืองอำนาจในช่วงนั้น และอยู่ได้ไม่นานก็หนีจากโจโฉ เพราะเขารู้แน่ว่าโจโฉรู้ว่าคิดจะกำจัดเขา หลังจากหนีโจโฉมาแล้ว ต่อมาเขาก็ต้องพลัดพรากจากน้องชายทั้งสองคือกวนอู เตียวหุย ซึ่งทั้งสามกระจัดกระจายไปคนละทาง กวนอูไปอยู่ด้วยโจโฉ เตียวหุยไปอยู่ที่เมือง ๆ หนึ่ง ส่วนเล่าปี่ก็ได้อาศัยอ้วนเสี้ยว และแล้วอ้วนเสี้ยวก็เปิดศึกกับโจโฉ

ฝ่ายกวนอูเมื่อรู้ว่าพี่ชายอยู่กับอ้วนเสี้ยวก็ควบม้าคู่ใจไปพร้อมครอบครัวและง้าวสหายรักไปด้วย ในที่สุดเล่าปี่ก็ได้พบกับกวนอู และก็ตีตัวออกจากอ้วนเสี้ยวไป จากนั้นเขาก็ได้พบกับจูล่ง เตียว
หุยอีกครั้ง ทำให้พวกเขาได้เจอหน้ากันอีก

และเขาก็ได้ไปขออาศัยกับเล่าเปียว เจ้าเมือง
เกงจิ๋ว ซึ่งเล่าเปียวนั้นก็ยินดีต้อนรับเล่าปี่ด้วยน้ำมิตรที่ดี แต่บรรดาขุนนางในเกงจิ๋วต่างไม่ชอบเล่าปี่ ซึ่งไม่นาน ชัวมอก็ได้วางอุบายเพื่อฆ่าเล่าปี่ แต่เล่าปี่ยังโชคดีที่มีขุนนางท่านหนึ่งมาบอกแผนการ ทำให้เล่าปี่หนีไปได้อีก และการหนีครั้งนี้เป็นการหนีที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ กล่าวคือการหนีครั้งนี้ทำให้เขาได้พบกับสุมาเต็กโช ชีซีซึ่งทั้งสองปราชญ์นั้น ถือว่ามีพระคุณต่อเล่าปี่มากเพราะเขาได้แนะนำให้เล่าปี่ได้รู้จักฮกหลง ฮองซู หรือ จูกัดเหลียง บังทองตามลำดับ

และเขาก็ได้ตัวขง
เบ้งหรือจูกัดเหลียงมาช่วยงาน ทำให้เขาสามารถขยายอำนาจขอบข่ายไปได้มากกว่าเดิม ไม่นานศึกเซ็กเพ็กก็บังเกิดขึ้นโดยโจโฉยกทัพใหญ่ลงมาหมายรวมแผ่นดินฮั่นเป็นหนึ่งเดียว และกำจัดศัตรูทางการเมืองตัวฉกาจ ทั้งซุนกวนและเล่าปี่ เล่าปี่ปละซุนกวนจึงร่วมมือกัน บังเกิดเป็น พันธมิตรซุน-เล่าพันธมิตรซุนเล่าก็สามารถพิชิตทัพโจโฉจนต้องหนีกลับภาคเหนืออย่างหมดสภาพเลยก็ว่าได้

หลังจากศึกเซ็กเพ็กจบลงเล่าปี่ก็มีอำนาจขยายอิทธิพลไปในที่ต่าง ๆ และก็ยังได้
เป็นฮองซู ผู้นามว่าบังทองและยอดขุนพลเฒ่า ฮองตงมาร่วมด้วยช่วยเล่าปี่อีกแรง

ไม่นานนักเล่าปี่ก็มีใจจะเอาดินแดนสวรรค์
เสฉวนมาครอบครอง จึงนำบังทองยอดปราชญ์ไปช่วยคิดแผนการยึดให้จงได้ แต่ก็น่าเสียดาย บังทองกลับตายอย่างน่าอนาถที่เนินหงส์ร่วง เล่าปี่เสียใจเป็นอันมาก แต่ด้วยปัญญาไม่มาก ต้องพึ่งปราชญ์จึงไปเรียกขงเบ้งจากเมืองเกงจิ๋วมาช่วย และยังเรียกตัวเตียวหุย จูล่งมาด้วย ทำให้การรักษาเกงจิ๋วเป็นหน้าที่ของกวนอู กวนอูจึงมานั่งเมืองเกงจิ๋ว

เล่าปี่ก็ดำเนินการยึด
เสฉวน และก็ยึดได้ตามประสงค์ ทั้งยังได้ตัวม้าเฉียวยอดทหารเสือเสเหลียงมาอีกด้วย

แต่เขาก็มีกรณีพิพาทกับซุนกวน ซึ่งเป็นกรณีพิพาทเมือง
เกงจิ๋วที่ปัจจุบันยังคงถกเถียงว่าใครสมควรได้รับเมืองนี้ หากสงสัยขอเชิญท่านผู้อ่านหาอ่านเรื่องของเกงจิ๋วด้วยตัวท่านผู้อ่านเอง ผู้เขียนมิขอย้อนว่าใครครองบ้าง จะกล่าวแบบผ่าน ๆ เพราะบทความนี้เน้นความลำบากของเล่าปี่เป็นหลัก

และการขัดแย้งกันของเล่าปี่กับซุนกวนก็ทวีความรุนแรงขึ้นจนกระทั่งเล่าปี่ต้องเสียกวนอูที่นั่งเมือง
เกงจิ๋วอยู่ แล้วไม่ยอมคืน ซุนกวนจึงออกคำสั่งใช้กำลังเขาเอาเมือง เมื่อเสียกวนอูแล้ว เล่าปี่ก็โกรธแค้นซุนกวนเป็นอย่างมาก และไม่นานเตียวหุยก็ถูกฮอมเกียง เตียวตัดลอบสังหารตัดหัวไปสวามิภักดิ์ต่อซุนกวน ทำให้เล่าปี่ยิ่งโกรธแค้นอย่างมาก จึงจะยกทัพไปทำลายง่อก๊กให้สิ้นซาก ถึงขนาดจะกินเนื้อซุนกวนทั้งเป็นเลยทีเดียว!!!

ฝ่ายขงเบ้ง จูล่งแม้จะคัดค้านไม่ให้เล่าปี่ไป เล่าปี่ก็หาฟังไม่ ซึ่งในเวลานั้นเล่าปี่เป็นฮ่องเต้แล้ว จึงจัดทัพโยธา 75 หมื่นไปบุกง่อก๊กทั้งทางบกทางน้ำโดยไม่มีขงเบ้งไปด้วย สร้างความกังวลให้ซุนกวนเป็นอย่างมาก

แม้ซุนกวนจะขอเจรจาเล่าปี่ก็ไม่สนใจ จะล้างแค้นให้ได้ และศึกนี้ถือเป็นสงครามใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ
ศึกอิเหลง และศึกนี้เอง เล่าปี่ก็ต้องเสียฮองตงหนึ่งในห้าทหารเสือไปอย่างน่าเสียดาย เพราะถูกฝ่ายง่อก๊กออกอุบายแล้วระดมยิงธนูใส่ แต่ดีที่เตียวเปา กวนหิน ลูกเตียวหุย และกวนอู 



ลกซุน
เล่าปี่ก็สามารถนำทัพไปชนะได้ตลอด ฝ่ายซุนกวนจึงส่งเมธีหนุ่มนามว่า ลกซุนไปรับศึกกับเล่าปี่ ซึ่งในที่สุดด้วยความประมาทปราชญ์รุ่นลูกว่าอ่อนประสบการณ์ ในคืนหนึ่งลกซุนนำทหารไปเผาค่ายเล่าปี่จนยับย่อย หนีแทบเอาชีวิตไม่รอด และก็ไปเสียชีวิตที่เมืองเป๊กเต้เสีย
เล่าปี่สั่งเสียขงเบ้งก่อนตาย
...ปิดตำนานคนทอเสื่อสู่จักรพรรดิ...

หากอ่านมาถึงตรงนี้ก็ต้องขอขอบพระคุณท่านผู้อ่านเป็นอย่างสูงที่สละเวลามาอ่าน ซึ่งค่อนข้างยาว ท่านอาจจะอ่านข้ามเพื่อรู้เรื่องแล้ว หรืออาจจะเข้ามาไม่อ่าน เปิดมาดูเฉย ๆ แล้วเห็นตรงนี้พอดีก็ต้องขอขอบคุณจริง ๆ

หากท่านอ่านแล้วก็จะเห็นได้ว่าชีวิตเล่าปี่นี่มันสุด ๆ จริง ๆ มีทนลำบากมาทั้งชีวิต เสียคนรัก คนสนิทไป แม้จะได้เป็นถึงฮ่องเต้แล้ว เขาก็ได้เป็นเพียง ๓ ปีเท่านั้นก็ต้องตายเสียแล้ว โถ...ชีวิต

David Ball
  24 เมษายน 57

4 ความคิดเห็น:

  1. เขียนบทความได้สนุกดีครับ

    ตอบลบ
  2. ผมว่าถ้ามองในอีกเเง่ จากคนธรรมดา ไต่เต้าขึ้นเป็นเป็นถึงองค์ฮ่องเต้ เล่าปี่คงมิใช่คนที่มีชีวิตรันทด หากเเต่เป็นเชื้อพระวงศ์ผู้มีบุญญาธิการสูง ขนาดได้นั่งบัลลังก์มังกร ไม่ว่าจะเสียคนรัก คนสนิท เสียทหารกับการล้างเเค้นให้กวนอู
    เตียวหุยเพื่อรักษาคำสาบานในสวนท้อที่ทั่วเเผ่นดินจีนรับรู้ หรือได้ครองราชย์เเค่สามปี เเต่คนผู้หนึ่ง ไร้ซึ่งอำนาจ เงินทอง ได้ขึ้นเป็นถึงมหากษัตริย์ ผมว่าครองราชย์เเค่สามวันยังนับเป็นบุญบารมี ควรมองเล่าปี่ในด้านนี้ด้วยนะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมก็เห็นด้วยครับ ถ้าเล่าปี่ไม่แก้แค้นให้กวนอู เล่าปี่ก็จะเป็นเพียงแค่คนปลิ้นปล้อนหลอกใช้ความรู้สึกคนเป็นเครื่องมือ แต่นี่ไม่ใช่ เล่าปี่พิสูจน์สัจจะที่ให้ไว้กับกวนอู เตียวหุย ให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเค้าเป็นคนอย่างไร

      ลบ